เป็นการรักษาฝ้า โดยวิธีการฉีดสารแอนติออกซิเเด็นท์ และมัลติวิตามินเข้าไปในชั้นผิวโดยตรง เพื่อลดการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติ ทำให้ฝ้าลดลงจนแทบไม่เห็นเม็ดสีที่ผิดปกติ ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง ไม่ทำลายเซลล์ ไม่ทำลายผิวหน้า อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการกระตุ้นการเกิดเม็ดสีที่ผิดปกติใหม่ รักษาได้ทั้งฝ้าตื้น ฝ้าลึก ฝ้าดื้อยา กระลึก และความผิดปกติของเม็ดสีอื่น ๆ
เป็นการรักษาฝ้า โดยวิธีการฉีดสารแอนติออกซิเเด็นท์ และมัลติวิตามินเข้าไปในชั้นผิวโดยตรง โดยใช้ยาที่มีปริมาณที่พอเหมาะเข้าสู่ชั้นผิวหนังที่มีความผิดปกติของเม็ดสีที่ต้องการรักษาโดยตรง จุกประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการทานยาหรือใช้ยาในรุปแบบอื่นที่อาจจะต้องใช้ปริมาณยาที่มากเกินความจำเป็นที่อาจจะเกิดผลข้างเคียงต่อระบบอื่นๆ การวิจัยนี้สารที่ใช้ทาเมโสเธอราปี คือ กรดทรานเนซามิก (Tranexamic acid )เป็นตัวยับยั้งการเปลี่ยนพลาสมิโนเจนเป็นพลาสมิน ซึ่งจะช่วยยับยั้งพลาสมินที่ถูกกระตุ้นโดยรังสียูวี โดยป้องกันการจับของพลาสมิโนเจนกับเซลล์ผิวหนัง ส่งผลให้อแรชิโดนิกอิสระน้อยลง และโพรสตราแกลนดินน้อยลง การทำงานของไทโรสิเนสจึงน้อยลงตามไปด้วย
PRP จะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน และเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้เกิดการฟื้นฟูผิวหน้า อีกทั้ง PRP ยังช่วยเรื่องริ้วรอยต่างๆ ให้ตื้นขึ้นได้ ผิวเรียบเนียนขึ้น คุณภาพผิวดีขึ้น สรุปคือ PRP จะช่วยย้อนวัยให้ผิวให้กับทุกสภาพผิว
ตัวยาจะซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ทันที ช่วยลดฝ้า กระ และจุดด่างดำให้ดูจางลงได้อย่างรวดเร็วเมื่อทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วันหลังการฉีด ซึ่งจะเห็นผลได้ไวกว่าการรักษาด้วยการทาครีม
ควรรับบริการ รักษฝ้า กระโดยการฉีดซ้ำทุกๆ 7-14 วันหลังการรักษาฝ้ากระ สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติไม่มีอาการบวม ไม่ต้องพักฟื้น
ระหว่างทำ อาจจะรู้สึกได้บ้างว่าไม่สบายผิว แสบเล็กน้อยระหว่างเดินยา แต่ทางแพทย์จะมีการทายาชาเพื่อบรรเทาอาการดังกล่าว
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดได้ จะเป็นอาการเช่นเดียวกับการฉีดทั่วๆ ไป อาจจะมีอาการบวมแดงและอาการบวมเล็กน้อยที่บริเวณที่ฉีดประมาณ 1 วัน โดยอาการจะค่อยๆดีขึ้น
1.ผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ
2.ผู้ที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ
3.ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ